วันเสาร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2552

งานวิจัยยางพาราไทย


วันนี้ขอนำเสนองานวิจัยใหม่ๆจากMTEC ฝีมือคนไทยช่วยพัฒนาการใช้ยางพาราของไทย
โคงการศึกษาและพัฒนาต้นแบบยางธรรมชาติทนความร้อนและโอโซน
13 พฤศจิกายน 2551
แม้ว่า ยางธรรมชาติ (NR) จะเป็นยางที่มีสมบัติเชิงกลดีเยี่ยมและมีความยืดหยุ่นสูง แต่เนื่องจากยางธรรมชาติมีพันธะคู่อยู่ในปริมาณที่สูงมาก ดังนั้น ยางธรรมชาติจึงเกิดการเสื่อมสภาพได้ง่าย ไม่ทนต่อออกซิเจน ความร้อนและโอโซน ซึ่งข้อด้อยดังกล่าวทำให้การใช้งานของยางธรรมชาติค่อนข้างจำกัดเพราะไม่ สามารถนำยางธรรมชาติไปใช้ในการผลิตผลิตภัณฑ์ที่ต้องมีการใช้งานกลางแจ้งหรือ ที่ต้องสัมผัสกับความร้อนหรือโอโซนสูงๆได้ ด้วยเหตุนี้ โครงการวิจัยนี้จึงเน้นที่จะศึกษาและปรับปรุงสมบัติความทนทานต่อความร้อนและ โอโซนของยางธรรมชาติโดยการนำเทคโนโลยียางผสม (Rubber Blend) มาประยุกต์ใช้ปัจจุบัน คณะผู้วิจัยสามารถพัฒนาต้นแบบยางธรรมชาติทนความร้อนและโอโซนในระดับห้อง ปฏิบัติการได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยต้นแบบยางธรรมชาติที่พัฒนาได้จะมีเนื้อยางธรรมชาติอยู่สูงถึงร้อยละ 80 แม้ว่าต้นแบบยางธรรมชาติที่พัฒนาได้ดังกล่าว จะมีสมบัติเชิงกลด้อยกว่ายางธรรมชาติทั่วไปเล็กน้อย แต่ต้นแบบยางธรรมชาติดังกล่าวก็มีสมบัติความทนทานต่อทั้งความร้อน และโอโซนอยู่ในเกณฑ์ที่ดี
ประโยชน์ที่ได้รับจากโครงการ
องค์ความรู้ที่ได้รับจากโครงการวิจัยนี้สามารถนำไปใช้ในการปรับปรุงข้อด้อยหลักของยางธรรมชาติ ทำให้สามารถนำยางธรรมชาติไปประยุกต์ใช้งานได้หลากหลายยิ่งขึ้น ซึ่งหากสามารถ ผลิตยางธรรมชาติทนความร้อนและโอโซนไปใช้ได้จริงในเชิงพาณิชย์ ก็จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศอย่างสูงเพราะนอกจากจะเป็นการเพิ่มปริมาณการใช้ยางธรรมชาติภายในประเทศแล้ว ยังช่วยลดปริมาณการนำเข้ายางสังเคราะห์จากต่างประเทศอีกด้วยคณะผู้ร่วมวิจัยรศ.ดร. ชาคริต สิริสิงห, นายอุทัย เทพสุวรรณ์,นางสาวนิโลบล ผิวทองอิน และนายฐานันดร วันทะนะ
แก้ไขล่าสุดเมื่อ ( 17 พฤศจิกายน 2008 )

ขอขอบคุณข้อมูลจากMTEC ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ

ไม่มีความคิดเห็น: